รีวิว The Book of Boba Fett (2021) เดอะ บุ๊ค ออฟ โบบา เฟตต์

พบกับการกับมาอีกครั้งของนักล่าห๋าหัวอย่าง Boba Fett รับบทโดย เทมูร่า มอร์ริสัน (Temuera Morrison) พร้อมกับคู่หูของเขา Fennec Shand รับบทโดย หมิงนา เวน (Ming-Na Wen) ทั้งคู่พร้อมสู้ในศึกต่างๆทั้งเกมทางการเมืองและศึกชิงอำนาจ

The Book of Boba Fett

ในภาพยนตร์ โบบา เฟตต์ นักล่าค่าหัวของฝั่งจักรวรรดิ์สิ้นชื่อไปแล้ว เพราะว่าพลัดตกลงไปในหลุมสัตว์ประหลาดที่มีชื่อว่า ‘ซาแล็ก’ (Sarlacc) ใน ‘Star Wars: Episode VI – Return of the Jedi’ (1983) แต่ในเชิงของเรื่องราวและทฤษฏีการรอดตายออกมาจากตัวซาแล็กของโบบา เฟตต์นั้นถูกพูดถึงในหมู่แฟน ๆ มานานแล้วว่า ในที่สุด นักล่าค่าหัวยอดฝีมือคนนี้จะต้องรอดออกมาจากตัวซาแล็กได้แน่นอน (ถ้าเอาตามทฤษฏี ก็มีความเป็นไปได้อยู่ เพราะจับบาบอกผ่านซีทรีพีโอ (C-3PO) ไว้ในหนังเองว่า ตัวซาแล็กใช้เวลาเป็นพัน ๆ ปีในย่อยอาหาร)

The Book of Boba Fett

The Mandalorian’ ทั้ง 2 ซีซัน ทั้งในแง่บท โปรดักชัน และวิธีการเล่าเรื่อง ซึ่งก็ต้องเปรย ๆ ไว้ก่อนนะครับว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดู ‘The Mandalorian’ โดยเฉพาะในซีซันที่ 2 มาก่อน เพราะว่าในนั้นมีเรื่องราวของโบบา เฟตต์ที่ถูกเล่าไปแล้วบางส่วน หากใครที่โพล่งมาดูก่อน หรือดูแล้วแต่จำไม่ได้ (แบบผู้เขียน (555) ก็อาจจะมีงง ๆ และอาจจะเผลอคิดไปเองได้ว่า ตัวซีรีส์มี Plot Hole ที่เชื่อมเรื่องราวได้ไม่สมบูรณ์นัก หากจะมองในฐานะของซีรีส์เรื่องนี้แบบเอกเทศ ผู้เขียนเองมองว่า เนื้อเรื่องถือว่าไม่ปราณีปราศรัยสำหรับคนที่ไม่ใช่แฟน Star Wars นะครับ เพราะในซีรีส์จะไม่มี Flashback ให้ดูย้อนเสียด้วยสิ แถมยังมีตัวละครที่มาจากแอนิเมชันในจักรวาลมาโผล่เป็น Life Action เป็นครัั้งแรกอยู่หลายตัวอีกด้วย

ตัวอย่าง

สำหรับซีรี่ย์เรื่อง ซีรี่ย์ The Book of Boba Fett (2021) เดอะ บุ๊ค ออฟ โบบา เฟตต์ ถือว่าเป็นที่ซีรี่ย์ที่ถูกพูดถึงกันอย่างล้นหลาม ด้วยตัวเรื่องราว ภาพ แสง สี เสียง สามารถทำให้ผู้รับชมรู้สึกสนุกและเพลิดเพลินกับการรับชมอย่างมาก